Tuesday, January 1, 2013

Montessori / มอนเตสซอรี่


Montessori
Montessori is a revolutionary method do observing and supporting the natural development of children that developed by Maria Montessori, MD in 1907.

Montessori educational practice helps children develop creativity, problem solving, critical thinking and time management skill, care of environment and each other, and prepare them to contribute to society and to become fulfilled persons. The basis of Montessori practice in the classroom is mixed age group (3-6 ages in one class), individual choice of research and work and uninterrupted concentration. Group lessons are seldom found in a Montessori classroom. But learning abounds, and because it is enjoyed, children remember what they learn. (www.montessori.edu)

In my personal experience of Montessori, I am not familiar with this method. It might be not popular for the majority of parents in Thailand and there is limitation of this method; however I also search for the information of this kind of school that use this method for teaching. During I have searched for the schools, I found that there are some of parents interested in this method and they also have their own group for teaching their children by themselves with Montessori. They provide all of the teaching method by themselves too. I had joined for this group a few times, I found that I liked this teaching method but it was not the last answer yet for my kids. 

Schooling for the children, it is very sensitive issue for parents. There are many factors that involves in schooling. When parents make a decision for their kinds, they must accept all the affect that will happen after their choosing. Your kinds’ future are in your hand, please be aware before schooling for your kids.

Ps. Regarding to all my comment above, it is only my personal reflection. Please do not refer my reflection to all any schools or any groups that use Montessori.


มอนเตสซอริ (Montessori)
แนวคิดการศึกษาแบบมอนเตสซอริพัฒนาขึ้นมาโดยมาเรีย มอนเตสซอริ ฐานคิดของแนวคิดมอนเตสซอริก็คือ การศึกษาควรเป็นการปลูกฝังให้เด็กได้เจริญเติบโตไปตามควา,ต้องการตาม ธรรมชาติของเขาและสอดคล้องกับพัฒนาการตามช่วงวัยโดยจัดการเรียนการสอนที่ใช้ประโยชน์จาก ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยให้มากที่สุด วิธีการหลักของแนวคิดมอนเตสซอริก็คือ การจัดสภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ให้เด็กได้มีอิสระในการเรียนรู้และทำงานด้วยตนเอง ตัวอย่างเช่น แนวคิดนี้เชื่อว่า เด็กเล็กควรจะเรียนด้วยร่างกายทัง้ หมดโดยเน้นทางด้านการฝึกฝนทางประสาทสัมผัสต่างๆ ตัง้แต่การเห็น การได้ยิน และการสัมผัส รวมทัง้ กิจกรรมหรืองานที่เด็กทำจะต้องมีความหมาย หรือการเรียนรู้แฝงอยู่ อุปกรณ์ที่ใช้ก็ เช่น รูปทรงเลขาคณิตเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้และจดจำสิ่งของจากประสบการณ์การสัมผัส (ที่มา : โรงเรียนทางเลือกกับทางเลือกในการศึกษาของประชาชน)



กิจกรรมหลักของมอนเตสซอรี่มีอยู่ ๓ กลุ่มด้วยกันคือ
๑.     กิจกรรมในกลุ่มประสบการณ์ชีวิต มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกให้เด็กมีระเบียบวินัย มีสมาธิและเป็นตัวของตัวเอง รวมถึงได้พัฒนากล้มเนื้อมัดใหญ่ มัดเล็ก
๒.     กิจกรรมในกลุ่มประสาทสัมผัส ฝึกให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าให้สัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม
๓.     กิจกรรมในกลุ่มวิชาการ (คณิตศาสตร์และภาษา) เพื่อปูพื้นฐานความรู้ให้กับเด็กเกี่ยวกับ จำนวน ตัวเลข การอ่านและการเขียน เด็กจะได้เรียนรู้อย่างเป็นขั้นตอนจากรูปธรรมสู่นามธรรมโดยใช้อุปกรณ์ของมอนเตสซอรี่เป็นสื่อ


การสอนแนวมอนเตสซอรี่เน้นการเรียนรู้เป็นรายบุคคล และเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เพราะเชื่อว่าเด็กปฐมวัยชอบความมีระเบียบ ดั้งนั้น การเตรียมการสอนของครูจึงต้องเป็นไปตามขึ้นตอนด้วย และยังให้ความสนใจความสามารถของมนุษย์ เชื่อว่าเด็กสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ มีสิทธิเรียนรู้ระเบียบวินัยของชีวิต และต้องมีโอกาสแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้ (ที่มา : คู่มือเลือกโรงเรียนให้ลูกรัก)


            ข้อชวนคิดที่นุ้ยอยากให้พ่อแม่ หรือผู้ปกครองตระหนักก็คือจุดแข็งและจุดอ่อนของการสอนแนวนี้  จุดอ่อนที่สังเกตได้ชัดกับการสอนแนวนี้คือ ในแง่ทักษะทางสังคม เด็กอาจขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและครู เพราะเด็กต้องทำกิจกรรมของใครของมัน แม้ตามทฤษฎีจะบอกว่านี่คือ  Child Centre ก็ตาม แต่เป็นมองที่วิธีคิดของเด็ก โดยปล่อยให้เด็กคิดอย่างอิสระ ทำด้วยตนเอง เน้นความรับผิดชอบ ความเป็นระเบียบ ขณะที่จริงๆ แล้วความรู้ทีเด็กได้จากการเล่นอุปกรณ์นั้น เด็กไม่ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ แต่เล่นหรือทำไปตามแบบแผนที่กำหนดไว้

            จุดเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือ ความเชื่อมั่นเรื่องประสาทสัมผัสทั้งห้า ซึ่งตรงนี้ช่วยพัฒนาเด็กได้มาก ในกลุ่มที่พ่อแม่ต้องการให้ลูกเป็นเด็กเรียบร้อย มักจะชอบแนวคิดแบบนี้ เพราะรากฐานของแนวคิดนี้มาจากศาสนา

            หากคุณพ่อคุณแม่ชอบโรงเรียนแนวนี้ ก็คงต้องดูให้ถึงแก่นว่าโรงเรียนที่บอกว่าใช้แนวมอนเตสซอรี่นั้นคำนึงถึงหลักการ  Child Centre จริงหรือไม่ และอุปกรณ์ที่ให้เด็กใช้ก็ต้องเป็นอุปกร์มอนเตสซอรี่จริงๆ และครูจะต้องได้รับการฝึกอบรมให้สอนตามขั้นตอน และจะลัดขั้นตอนไม่ได้ ซึ่งหากทำได้จริงๆ แล้ว ก็จะช่วยให้เด็กเกิดพัฒนาการได้ดี

โรงเรียนทางเลือกในไทยที่นำแนวคิดมอนเตสซอริมาใช้ เช่น โรงเรียนปิติศึกษา โรงเรียนมอนเตสเซอร์รี่ภูเก็ต โรงเรียนอนุบาลกรแก้ว โรงเรียนสมบุญวิทย์ และโรงเรียนอนุบาลยุวมิตร

สำหรับตัวนุ้ยเองนั้น ก็เคยได้ไปดูโรงเรียนแนวนี้อยู่บ้าง แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างของ รร. แนวนี้ นุ้ยก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ค่ะ บางครั้งคนเป็นพ่อแม่ก็กลัวนะคะว่า ถ้าเอาลูกเข้า รร. แนวนี้แล้ว พอจบอนุบาลและต้องต่อแนวไหน แนวเดิมมีหรือไม่ หรือว่าถ้าเอาลูกไปเข้าในระบบ ลูกจะปรับตัวได้ไหม เริ่มมีแต่คำถามเข้ามาในหัว นุ้ยเองยอมรับเลยค่ะว่ากังวลมาก แต่ก็อีกนะคะ พ่อแม่ก็อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แต่นุ้ยก็ยังมีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า เด็กสามารถปรับตัวได้ค่ะ ไม่ว่าเราจะเลือกโรงเรียนแบบไหนให้ลูก ถ้าเวลานี้เศรษฐกิจดี ก็จะเลือกโรงเรียนที่เราต้องการให้ลูกได้ แต่ถ้าวันหนึ่งครอบครัวอาจเกิดพลิกผันทางเศรษฐกิจ เราก็ต้องส่งลูกเข้า โรงเรียนตามความสามารถของเรา (รร.ในระบบของรัฐ) ลูกก็ต้องเรียนได้ค่ะ เราคนเป็นพ่อแม่ ต้องเป็นตัวอย่างให้ลูกค่ะ ลูกจะเชื่อมั่นในตัวของเรา เค้าจะมั่นใจว่าโรงเรียนที่พ่อแม่เลือกให้กับเค้านั้นดีและเหมาะสมกับเค้าแล้วเช่นกันค่ะ
           
     
ปล. สวัสดีปีใหม่กับผู้อ่านทุกท่านนะคะ มีความสุขมากๆนะคะ ปีใหม่นี้สัญญาว่าจะพยายามมาอัพบล็อคทุกสัปดาห์ค่ะ อยากให้เขียน หรือหาเนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษาทางใด หรือสิ่งที่สนใจเป็นพิเศษ ติดต่อได้ที่ pornthipa014@gmail.com
ยินดีรับทุกความคิดเห็นค่ะ 

8 comments:

  1. สำหรับตัวเราเอง เราสนใจแนวทางนี้ที่สุดเลยค่ะ
    เพราะสังเกตจากนิสัยลูกจากที่เราใกล้ชิดกัน เราว่าแนวนี้เหมาะกับเค้าที่สุด

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ นุ้ยเองก็ชอบทางนี้เหมือนกันค่ะ แต่ก็กลัวจะหา รร. ต่อ ป.๑ ไม่ได้ ก็เลยให้เรียน รร. อนุบาลเตรียมความพร้อมไปก่อน ช่วงสามปีแรกที่เลี้ยงเอง ก็ผสมกันหมดทุกทฤษฎีค่ะ อันไหนลูกเราชอบก็จัดไป ไม่ได้เน้นด้านใดเป็นพิเศษค่ะ

      Delete
  2. I have an inquiry about the Montessori method whether how could it be actually achieved in Thai education?

    ReplyDelete
    Replies
    1. Please give me sometime to find out the example for you na ka. Thank you for your comment ka.

      Delete
  3. Good Parenting Education! I like the idea of observing the child &
    supporting accordingly.

    ReplyDelete
    Replies
    1. Thank you for visiting my site ka. I will keep continuing on this blog and provide everyone of some knowledge for parent and whoever interested in parental role ka.

      Delete
  4. Good idea for parenting education

    ReplyDelete
  5. อยากให้ลูกเรียนแนวนี้ค่ะ แต่ลูกจะไปเรียนต่อ ม.1 ที่ไหนแม่ยังคิดไม่ตก มีคำแนะนำไหมคะ

    ReplyDelete